หมอสุดทน ออกมาแฉประจาน !! โพสต์แรง “ควายทั้งนั้นที่โรงพยาบาลนี้” เพราะสาเหตุที่หลายคนฟังแล้วก็รับไม่ได้

 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 โลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวจากเฟซบุ๊คชื่อ Chackrapong Deesri ซึ่งเคยเป็นหมอมาก่อน ออกมาโพสต์เรื่องรา...


 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 โลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวจากเฟซบุ๊คชื่อ Chackrapong Deesri ซึ่งเคยเป็นหมอมาก่อน ออกมาโพสต์เรื่องราวสุดฉาวของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง กรณีตนได้พาผู้ป่วยหอบหืดเข้ารับการช่วยเหลือจากโรงพยาบาล แต่แล้วกลับพบกับเรื่องที่ต้องทำให้หงุดหงิดใจด้านการให้บริการของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นทั้งแพทย์และพยาบาล ที่ให้การช่วยเหลือแบบผิดวิธีและไม่เต็มที่ ดูแล้วเหมือนมุ่งหวังผลประโยชน์ทางธุรกิจซะมากกว่า โดยได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังว่า

"โรงฆ่าสัตว์ หรือโรงบาลศูนย์กันวะ..ว่าจะไม่ด่าแล้วนะ!!

        เช้าตรู่นี้ ช่วงตี 3-3 ครึ่ง คนไข้..มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ไม่มีสายหูฟังแต่ใช้หูแนบที่หลัง มีเสียงดัง wheezing เบาๆเวลาหายใจออกบริเวณหลอดลม มีอาการไอ สำลักเวลาแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกมากๆ ทุรนทุราย พูดแทบไม่ได้ ได้แต่พูดย้ำๆว่า หายใจไม่ออกๆๆๆ

        ..ก่อนนี้ไปกิน เหล้าปั่น และ smirnof แม้จะเมาหลายครั้งแต่ไม่เคยหายใจไม่ออก..ประวัติเคยมีอาการ หายใจไม่ออกเวลาเหนื่อยๆ (หืด)

        จากประสบการณ์ที่ผมเป็นแพทย์มา 30 กว่าปี คนไข้เป็น Asthma หรือหืดแน่นอน..จึงจะพาไปซื้อยาพ่น Ventolin ปรากฏว่าตี 4 ร้านยาที่ห้าแยกน้ำพุปิด

         คนไข้หายใจเหนื่อยมาก ทุรนทุราย จึงรีบพาไปโรงบาลศูนย์อุดรธานี รีบบอกแพทย์เวรและพยาบาลว่าคนไข้เป็น Asthma หืด มีอาการหอบหายใจไม่ออก



 พยาบาลคนหนึ่งสวนออกมาว่า ทะเลาะกันมาไหม ผมบอกว่าเปล่า เขาเป็นหืด แล้วพยาบาลรีบตะโกนว่า Anxiety ,Diazepam ผมรีบบอกว่าผมเป็นแพทย์ เขาถามว่าแพทย์ที่ไหน ผมบอกว่าตั้งแต่พวกคุณยังไม่เกิดและเลิกคิดเลยว่า Anxiety (เครียด) เขารีบไล่ผมไปทำบัตร แล้วไล่ผมรีบออกจากห้อง เขาบอกว่าพี่ยิ่งอยู่เขายิ่งเป็น(เครียดมาก) นึกในใจว่า นี่พวกควายทั้งนั้นที่โรงบาลนี้

         พยาบาลอีกคนว่า "นี่หมอฉีด Valium แล้วเดี๋ยวก็ดีขึ้นคุณรีบออกไปหาที่นั่งพักข้างนอกโน้น" ..ผมตกใจ พยาบาลวัดชีพจร(หัวใจ)เต้น 136-145 ครั้งต่อนาที นี่จะช็อกจากหัวใจล้มเหลว เพราะหายใจไม่ออก แถมฉีดแวเลี่ยม 1 หลอดเข้าไปในคนเมาที่เป็นหืด อาการยิ่งหนัก มันไม่รู้หรือว่า ยานอนหลับ+เหล้าจะกดศูนย์ควบคุมการหายใจ อาจหยุดหายใจได้ทันที พยาบาลก็รีบไล่ผมเป็นครั้งที่สอง

        ผมออกไปนั่งด้านนอกห้อง ER..ได้เกือบ 20 นาที ทนไม่ไหว กลัวจะน็อคหยุดหายใจเพราะฉีด Diazepam ขอเข้าดูอาการ ไม่มีใครเฝ้าดู ปิดม่าน คนไข้ทุรนทุราย ชีพจร 143 ครั้งต่อนาที ผมรีบหิ้วปีกลงจากเตียง ขอย้ายโรงบาลทันที ผมขอเปลแต่ไม่ไม่ใครช่วย ผมหิ้วปีกลงจากเตียง ผ่านหน้าน้องที่เป็นหมอแพทย์เวร มองแค่ตาปริบๆ พยาบาลรีบตะโกน "พี่อย่าลืมไปจ่ายบิลด้วย 150บาท" ..ผมวางคนไข้นั่งหน้าประชาสัมพันธ์ พยาบาลสองคนที่นั่น ไม่มีใครเหลียวแล ไม่เรียกเปล ผมวิ่งไปห้องจ่ายเงินที่อยู่ไกล รีบหิ้วปีกไปโรงพยาบาลวัฒนาราวๆตี 5

       ที่วัฒนามีแต่พยาบาล ผมพยายามบอกว่าเขาเป็นหืด ผมถามหาแพทย์ เขายังไม่รีบตรวจหรือทำอะไรกัน ผมบอกขออ๊อกซิเจน และฉีดกลูโคสให้ก่อน เขาวัดชีพจรได้ 136 ครั้งต่อนาที พอหมอมาถึง ผมบอกว่าผมเป็นแพทย์ เขาเป็นหืด หายใจไม่ออก และเขาเมาขอกลูโคสก่อน เขาก็สั่งตาม หมอบอกว่าตรวจคลื่นหัวใจ EKG ไหม ผมมองหน้าหมอ..แล้วถามว่าตรวจทำไม..หมอตอบว่าหัวใจเต้นเร็ว ผมนึกในใจว่าเมิงยังไม่รู้รึว่าหัวใจเต้นเร็วเพราะอะไร(มันหายใจไม่ออก) คนกำลังจะตายทุรนทุราย เมิงไม่คิดทำอะไร เมิงยังมีกะจิตกะใจหาเงินเข้าโรงบาล มันไม่รู้ว่าคนใจจะขาดมันทรมานแค่ไหน

 "สักครู่หมอถามว่าจะแอดมิดไหม ผมบอกว่าขอดูอาการก่อน แอดมิดแล้วหมอจะรักษายังไง เขาไม่ตอบมันคงคิดจะเอาไปทรมานข้างบนหาเงินโดยไม่ช่วยให้ดีขึ้น อาจตายบนห้อง เพราะมันไม่รู้วิธีรักษา แถมพยาบาลวิ่งเข้ามาบอกว่า "คงเมามากมากหละสิ หนูก็เป็นอย่างนี้แหละ ปล่อยให้นอนเด่วหายเอง" (บร๊ะเมิงตรัสรู้กันหมดนะนี่)..ผมขอยาสเตียรอยด์หยอดจมูกเพื่อลดการคัดจมูกและขอ Ventolin ยาพ่นขยายหลอดลม หมอให้แค่ยาหยอดจมูกไม่ให้ยาขยายหลอดลมแต่สั่ง kammilosan M มาให้ นึกในใจนี่ก็ควายอีกตัว เมิงเอายาอมฮอลล์มาขายกูดีกว่า"

       "พอได้กลูโคสก็ดีขึ้นเล็กน้อยแต่ชีพจรขึ้นสูงตามอัตราการหายใจไม่ออก ผมจ้องที่จอมอนิเตอร์ ทุกครั้งที่ชีพจรลงม124-125 เขาจะดีขึ้น พอสวิงขึ้น130-140 ครั้ง เขาจะแน่นเจ็บหน้าอก หายใจไม่ออก"

 "พยาบาลบอกให้ผมออกไปข้างนอกเดี๋ยวน้องเขาจะดีเอง เขาหาว่าผมรบกวนคนไข้ ผมบอกผมกำลังจ้องจอมอนิเตอร์และคิดว่าจะทำยังไง นี่ไม่ใช่โรงพยาลบาลของกู คิดหาวิธี แอบลุ้นและภาวนาให้รอดไปได้ และรอดูว่ายาหยอดจมูกจะช่วย สักพักสเตียรอยด์ออกฤทธิ์ จมูกเริ่มโล่ง แน่นหน้าอกลดลง หายใจดีขึ้น มองดูชีพจรค่อยๆลด จาก 130..125..103.. คนไข้เริ่มหายใจเบาสบายขึ้น นอนหลับได้ไม่ทุรนทุราย ผมมองดูนาฬิกา 6.15 นาที ร้านขายยาคงเปิด เขาลุกเดินได้หายใจคล่องขึ้นแต่ยังเจ็บตรงหน้าอกหายใจลึกไม่ได้"
   "ผมรีบไปจ่ายตังค์ พาไปร้านขายยาที่ตลาดเทศบาล 2 ขอ Ventolin 1 หลอด ราคา 200 บาท รีบให้พ่นไป 2 ปับ ไม่ถึง 5 นาที หายใจลึกได้เป็นปกติ

 ..นึกในใจว่า.กูเกือบได้ไปงานศพซะแล้ว..แม่ง โรงฆ่าสัตว์ดี ๆ นี่เอง ไอ้โรงบาลศูนย์บ้าๆนี่"

loading...

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น