วันนี้ ( 18 พ.ค.)รายงานโลกโซเชียลล่าสุดว่า ...ดราม่าอีก ..ชาวเน็ตบางส่วนบ่นการรายงานข่าวปัญหาชาวโรฮีนจา ของผู้สื่อข่าวชื่อดัง ฐปณีย์ เอียดศรีไชย และรายการ ข่าว 3 มิติ บอกประเทศตัวเองก็มีปัญหาเยอะอยู่แล้ว อย่านำเรื่องนอกประเทศมาเพิ่มความลำบาก

กลายเป็นเรื่องที่มีคนพูดถึงกันมากในโลกออนไลน์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ กับกรณีของปัญหาชาว "โรฮีนจา" ทำให้คนทั่วโลกหันมาสนใจและกดดันให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวโดยใช้เรื่องมนุษยธรรมมากดดัน โดยเฉพาะประเทศไทย จนทำให้ชาวเน็ตออกมาแสดงความคิดเห็นว่าประเทศไทยไม่ควรเป็นประเทศที่ต้องถูกกดดัน เพราะไม่ใช่ประเทศต้นเรื่องและยังได้ให้การช่วยเหลือไปบ้างแล้ว

แต่ก็ยังมีอีกกระแสที่กล่าวถึงการรายงานข่าวของรายการข่าวทางช่อง 3 อย่างรายการ ข่าว 3 มิติ ซึ่งได้รายงานข่าวปัญหาชาวโรฮีนจาอย่างเกาะติด พร้อมนำเสนอประเด็นที่ทำให้เห็นเรื่องราวอันน่าเศร้า นอกจากนี้ตัวผู้สื่อข่าว ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ยังได้จุดประเด็นเรื่องความน่าสงสาร ทำให้ชาวเน็ตหลายคนต่อต้านการรายงานข่าวดังกล่าว เพราะเห็นว่าปัญหาดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มความลำบากให้กับประเทศซึ่งในปัจจุบันก็มีปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้มากพออยู่แล้ว พร้อมทั้งบอกว่าเป็นการรายงานข่าวที่ขาดจริยธรรมสื่อในการใส่ความเห็นส่วนตัวลงไปในการรายงานข่าว อาจทำให้ข่าวได้รับความบิดเบือนได้และยังถือเป็นการชี้นำคนดูอีกด้วย

และล่าสุด (17 พฤษภาคม 2558) เพจเฟซบุ๊กชื่อดังอย่าง Drama-addict ก็ได้นำประเด็นดังกล่าวมาพูดถึงด้วยเช่นกัน โดยได้มีการเชื่อมโยงไปถึงกรณีที่ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวเคยรายงานข่าวแรงงานทาสบนเรือประมงไทยที่หลายต่อหลายคนเอาใจช่วย แต่กรณีนี้กลับมีแต่คนไม่เห็นด้วย

 โดยเพจดังกล่าวได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า .....

"กระแสด่าฐาปนีย์ในโซเชี่ยลแม่งแรงจริง ๆ ยิ่งเจ๊แกไปให้สัมภาษณ์สื่อนอกบอกว่า พวกเขาไม่ต้องการไปที่อื่น พวกเขาไม่รู้ว่าจะไปไหน ฉันแน่ใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่อยากเดินทางต่อไป กระแสด่าเจ๊แกยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เหมือนหนังคนละม้วนกับตอนที่เจ๊แกทำข่าวแรงงานทาสบนเรือประมงไทยเลย ตอนนั้นสังคมเข้าข้างเจ๊แกแล้วถล่มบิ๊กตู่ที่เรียกฐาปนีย์ไปรายงานตัวซะยับ

อย่างที่บอกในสเตตัสก่อนว่ามันเป็น dilemma ระหว่างความมั่นคงกับมนุษยธรรม ที่เจ๊แกพูดแบบนั้นในแง่มนุษยธรรมก็ไม่ผิดหรอก ปัญหาอยู่ที่ ในฐานะสื่อมวลชน เจ๊แกเอาตัวเองเข้าไปมีอารมณ์ร่วมกับข่าวมากเกินไป จนเจ๊แกเกิดความเห็นในชาวโรฮีนจามาก และนำเสนอข่าวไปในทางชี้นำว่าเราควรรับชาวโรฮีนจาไว้ เราควรช่วยเขาให้ถึงที่สุด ไรงี้

แต่อย่างว่ามันเป็น dilemma หรือแปลเป็นไทยว่าภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เป็นสถานการณ์ที่เราเลือกได้อย่างยากลำบาก ไม่รู้จะเลือกทางไหนดี คนที่มีแนวคิดว่า การรับโรฮีนจาเข้ามา จะเป็นภัยต่อความมั่นคง เขาก็มีเหตุผลของเขา และเขาอาจจะเห็นว่าการนำเสนอข่าวแนว ๆ ชี้นำให้เราต้องรับโรฮีนจาเข้ามา มันสุ่มเสี่ยงต่อปัญหาความมั่นคงในบ้านเรามากขึ้น

เจ๊ฐาปนีย์จะโดนคนที่ไม่เห็นด้วยรุมถล่มก็เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ตั้งแต่สกู๊ปแรกของข่าวสามมิติเรื่องโรฮีนจาแล้ว
 เมื่อคุณนำเสนอข่าวแบบดราม่าก็จะได้ดราม่ากลับมานั่นแล

ผู้สื่อข่าวคนอื่น ๆ ก็ควรดูเคสเจ๊ฐาปนีย์เป็นตัวอย่างแล้วพิจารณาว่า เราควรจะขีดเส้นกั้นไม่ให้อารมณ์มีผลต่อการนำเสนอข่าวมากเกินไป หรือลงไปเล่นกับดราม่าให้เต็มที่แล้วรอเอ็นจอยกับดราม่าแบบเจ๊ฐาปนีย์"

หลังโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามากดไลค์และกดแชร์ พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก อาทิ "ลืมเรื่องจริยธรรมสื่อไปสินะ ว่าผู้สื่อข่าวไม่ควรใส่ความเห็นส่วนตัวลงไปในข่าวอะ #ให้ตายเถอะคุณพระ", "เอ็นดูเค้า เอ็นเราขาด

ก่อนจะช่วยคนนอก คนในช่วยรึยังค่ะเจ้เอียด", "สุภาษิต ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน ช่างเหมาะสมกับหล่อนยิ่งนัก", "คนไทยที่กินข้าวไม่ครบ 3 มื้อ ต่อวัน ยังมีอยู่ในบ้านเรา ช่วยคนไทยก่อนไหม" เป็นต้น

ทั้งนี้ ในเว็บไซต์พันทิปก็มีคนเข้าไปตั้งกระทู้ถึงกรณีดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก อาทิ กระทู้ที่ถูกตั้งโดย สมาชิกหมายเลข 2282296 ชื่อกระทู้ว่า "ฐปนีย์ เอียดศรีชัย อีกแล้ว... คราวนี้ไปให้สัมภาษณ์ BBC

(Rohingyas)" ซึ่งเป็นกระทู้ที่พูดถึงกรณีที่ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC และได้ใส่ความเห็นส่วนตัวและใส่อารมณ์ร่วมกับข่าวมากเกินไป ทั้งนี้ ได้มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

ขอบคุณข่าวสารดีๆจาก :: tnews