สุดเลว!! งานบวชที่โคราช กำลังจะแห่นาคเข้าโบสถ์ หันมาดูอีกทีมีบางอย่างหายไป แทบจะเป็นลม

ฉกทองจากบาตรพระบวชใหม่ที่ด่านขุนทด โคราช น้ำหนัก 48 บาท ค่ากว่า 1.5 ล้าน หนีลอยนวล ตำรวจเร่งไล่ล่าตัวหลังญาติเข้าแจ้งความ วา...


ฉกทองจากบาตรพระบวชใหม่ที่ด่านขุนทด โคราช น้ำหนัก 48 บาท ค่ากว่า 1.5 ล้าน หนีลอยนวล ตำรวจเร่งไล่ล่าตัวหลังญาติเข้าแจ้งความ
วานนี้ (23 ก.ย.) ที่ สภ.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา นายสมภพ อายุ 56 ปี เจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ครองชัย ตาลประดิษฐ์ พนักงานสอบสวน สภ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ว่า มีเหตุคนร้ายแฝงตัวเข้าไปลักสร้อยทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 48 บาทหลบหนีไป

นายสมภพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ตนจัดพิธีอุปสมบทให้ นายพงษ์รัตน์ อายุ 21 ปี บุตรชาย ที่อุโบสถวัดกระทุ่มโพรง ต.หนองกราด อ.ด่านขุนทด โดยมีพิธีแห่นาครอบอุโบสถ ซึ่งญาติสนิท มิตรสหาย ได้รวบรวมทองคำเนื่องจากมีความเชื่อว่าหากนำพระ และเครื่องลางของขลังใส่ในบาตรพระใหม่ที่เข้าพิธีอุปสมบทแล้วจะช่วยเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์และขลังมากขึ้น จึงต่างพากันถอดสร้อยคอทองคำ และพระเครื่องสวมใส่ให้นาคไว้ และในช่วงเข้าพิธีอุปสมบทให้นำใส่บาตรเพื่อปลุกเสก

ทั้งนี้เมื่อแห่นาครอบพระอุโบสถครบ 3 รอบ ก่อนเข้าโบสถ์ นาคจึงถอดสร้อยคอทองคำของมีค่าทั้งหมด ประกอบด้วยสร้อยคอทองคำหนัก 14 บาท หนัก 5 บาท หนัก 4บาท หนัก 3 บาท หนัก 2 บาท อย่างละ 1 เส้น พร้อมพระเลี่ยมทองหนักราว 25 บาท รวมน้ำหนักกว่า 48 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท ใส่ในบาตร โดยมีการถ่ายภาพนิ่งเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันอุ้มนาคแตะที่ขอบประตูอุโบสถ คนร้ายซึ่งเป็นหญิงสูงวัย รูปร่างท่วมถึงอ้วนใบหน้ากลมผิวคล้ำ ซึ่งไม่มีใครรู้จัก และไม่คุ้นหน้าได้ฝ่าวงล้อมญาติมิตรเข้ามายืนข้างนายสมภพ ไม่มีใครสงสัย กระทั่งนำนาคเข้าโบสถ์พบว่าสร้อยคอทองคำได้หายไปแล้วพร้อมหญิงคนดังกล่าว

หลังรับแจ้งความ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผู้กำกับการ สภ.ด่านขุนทด ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน เร่งหาเบาะแสผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนให้แน่ชัด เบื้องต้นทราบว่าหญิงต้องสงสัยคือ นางชม อายุ 48 ปี ชาว อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์

จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยก่อเหตุล้วงกระเป๋าในเขตท้องที่ อ.ด่านขุนทด มาแล้ว จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายศาลเข้าจับกุมผู้ต้องหาอย่างเร่งด่วนต่อไป - สำนักข่าวไทย

loading...

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น